การเตรียมกล้องให้พร้อม
- การร้อยสายคล้อง
- การชาร์จแบตเตอรี่
- การใส่แบตเตอรี่
- การประกอบเลนส์
- การใส่การ์ดหน่วยความจำ
- การตั้งค่ากล้อง
การร้อยสายคล้อง
ในการร้อยสายคล้อง (ไม่ว่าจะเป็นสายคล้องที่ให้มาหรือซื้อแยกต่างหาก):
การชาร์จแบตเตอรี่
ชาร์จแบตเตอรี่ EN‑EL18c ในเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH‑26a ที่ให้มาก่อนใช้งาน แบตเตอรี่ที่หมดแล้วจะใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณสองชั่วโมง 35 นาที
อ่านและทำตามคำเตือนและข้อควรระวังใน “เพื่อความปลอดภัยของท่าน” (เพื่อความปลอดภัยของท่าน) และ “การดูแลรักษากล้องและแบตเตอรี่: ข้อควรระวัง” (การดูแลรักษากล้องและแบตเตอรี่: ข้อควรระวัง)
-
เสียบสายไฟเข้ากับเครื่องชาร์จ
-
เสียบปลั๊กเครื่องชาร์จ
-
ถอดฝาครอบขั้วต่อแบตเตอรี่ออก
-
ถอดแผ่นปิดหน้าสัมผัส
เลื่อนแผ่นปิดหน้าสัมผัสออกจากเครื่องชาร์จตามที่แสดง
-
ชาร์จแบตเตอรี่
1 หน้าสัมผัส
2 คำแนะนำ
3 ไฟสถานะช่องบรรจุแบตเตอรี่
4 ไฟสถานะการชาร์จ (สีเขียว)
-
ใส่แบตเตอรี่ (เริ่มจากด้านขั้ว) โดยให้ด้านท้ายแบตเตอรี่ตรงกับเส้นไกด์ แล้วเลื่อนแบตเตอรี่ตามทิศทางที่กำกับไว้จนคลิกเข้าตำแหน่ง
-
ไฟสำหรับช่องที่บรรจุแบตเตอรี่อยู่ (“L” หรือ “R”) จะเริ่มกะพริบเมื่อชาร์จ
-
การชาร์จจะเสร็จสิ้นเมื่อไฟสถานะช่องบรรจุแบตเตอรี่หยุดกะพริบ และไฟสถานะการชาร์จดับ
-
สถานะแบตเตอรี่จะแสดงโดยช่องบรรจุแบตเตอรี่และไฟสถานะการชาร์จ:
สถานะการชาร์จ
<50%
≥50%, <80%
≥80%, <100%
100%
ไฟสถานะช่องบรรจุแบตเตอรี่
H (กะพริบ)
H (กะพริบ)
H (กะพริบ)
K (เปิด)
ไฟสถานะการชาร์จ
100%
I (ปิด)
I (ปิด)
H (กะพริบ)
I (ปิด)
80%
I (ปิด)
H (กะพริบ)
K (เปิด)
I (ปิด)
50%
H (กะพริบ)
K (เปิด)
K (เปิด)
I (ปิด)
-
-
ถอดแบตเตอรี่ แล้วถอดปลั๊กเครื่องชาร์จหลังจากการชาร์จเสร็จสิ้น
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการปรับเทียบแบตเตอรี่เพื่อให้มั่นใจถึงความแม่นยำของการแสดงผลระดับแบตเตอรี่ โปรดดู “การปรับเทียบแบตเตอรี่” ( การปรับเทียบแบตเตอรี่ )
หากช่องบรรจุแบตเตอรี่ MH‑26a และไฟสถานะการชาร์จกะพริบและดับลงตามลำดับ ให้ทำตามขั้นตอนที่อธิบายไว้ด้านล่าง
-
หากไม่ได้ใส่แบตเตอรี่: เกิดปัญหากับเครื่องชาร์จ ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จแล้วปรึกษาตัวแทนบริการของ Nikon ที่ได้รับการแต่งตั้ง
-
หากใส่แบตเตอรี่: เกิดปัญหากับแบตเตอรี่หรือเครื่องชาร์จในขณะชาร์จ ถอดแบตเตอรี่ ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จ แล้วปรึกษาตัวแทนบริการของ Nikon ที่ได้รับการแต่งตั้ง
การใส่แบตเตอรี่
ปิดกล้องก่อนใส่แบตเตอรี่หรือนำแบตเตอรี่ออก
-
ถอดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ BL‑6
ยกก้านล็อคฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ ดันไปที่ตำแหน่งเปิด (A) (q) แล้วถอดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ (w)
-
ประกอบฝาปิดกับแบตเตอรี่
-
หากตัวปลดแบตเตอรี่อยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นลูกศร (H) ให้เลื่อนตัวปลดแบตเตอรี่เพื่อปิดทับลูกศร (H)
-
เสียบก้านทั้งสองบนแบตเตอรี่ในช่องที่ตรงกันในฝาปิดตามที่แสดง ตัวปลดแบตเตอรี่จะเลื่อนไปด้านข้างจนมองเห็นลูกศรทั้งหมด (H)
-
-
ใส่แบตเตอรี่
ใส่แบตเตอรี่จนสุดและมั่นคงดังที่แสดง
-
ล็อคฝาปิด
-
หมุนก้านล็อคไปที่ตำแหน่งปิด (q) แล้วพับครึ่งตามภาพประกอบ (w)
-
โปรดแน่ใจว่าล็อคฝาปิดแน่นดีแล้วเพื่อป้องกันไม่ให้แบตเตอรี่เลื่อนออกมาในขณะใช้งาน
-
การนำแบตเตอรี่ออก
ก่อนจะถอดแบตเตอรี่ ให้ปิดกล้อง ยกก้านล็อคฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ แล้วหมุนไปที่ตำแหน่งเปิด (A)
ในการปลดล็อคฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่เพื่อให้สามารถถอดฝาปิดออกจากแบตเตอรี่ได้ ให้เลื่อนตัวปลดแบตเตอรี่ตามทิศทางที่กำกับด้วยลูกศร (H) จนกว่าจะหยุด
-
ใช้เฉพาะฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ BL‑6 เท่านั้น; ฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่อื่นไม่สามารถใช้กับกล้องนี้ได้
-
แบตเตอรี่สามารถชาร์จได้โดยติดฝาปิดไว้
-
ในการป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปในช่องบรรจุแบตเตอรี่ ให้ใส่ฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่บนกล้องเมื่อไม่ได้ใส่แบตเตอรี่
การประกอบเลนส์
-
เลนส์ที่ใช้ในคู่มือนี้เพื่อแสดงภาพประกอบโดยทั่วไปคือ AF‑S NIKKOR 50mm f/1.4G
-
ระวังอย่าให้ฝุ่นเข้าไปในกล้อง
-
ตรวจสอบว่าปิดการทำงานกล้องก่อนทำการประกอบเลนส์
-
ถอดฝาปิดตัวกล้อง (q, w) และฝาปิดเลนส์ด้านหลัง (e, r) ออก
-
จัดเครื่องหมายแสดงตำแหน่งติดตั้งบนตัวกล้อง (t) และเลนส์ (y) ให้ตรงกัน
-
หมุนเลนส์ตามภาพที่แสดงจนคลิกเข้าที่ (u, i)
-
-
ถอดฝาปิดหน้าเลนส์ออกก่อนถ่ายภาพ
เมื่อใช้เลนส์ CPU ที่มีวงแหวนปรับรูรับแสง ( การระบุเลนส์ CPU และเลนส์ชนิด G, E และ D ) ให้ล็อครูรับแสงไว้ที่การตั้งค่าน้อยที่สุด (ค่ารูรับแสงสูงสุด)
หากเลนส์มีสวิทช์ปรับโหมดโฟกัส ให้เลือกโหมดโฟกัสอัตโนมัติ (A, M/A หรือ A/M)
พื้นที่ภาพรูปแบบ DX จะถูกเลือกโดยอัตโนมัติเมื่อประกอบเลนส์ DX เข้ากับกล้อง
การถอดเลนส์
-
หลังจากปิดกล้อง ให้กดปุ่มถอดเลนส์ (q) ค้างไว้ขณะหมุนเลนส์ไปตามทิศทางที่แสดงในภาพ (w)
-
หลังถอดเลนส์แล้ว ให้ใส่ฝาปิดหน้าเลนส์และฝาปิดตัวกล้องกลับเข้าที่
การใส่การ์ดหน่วยความจำ
กล้องมีช่องบรรจุแผ่นการ์ดหน่วยความจำสองช่อง: ช่องที่ 1 (q) และช่องที่ 2 (w) สามารถใช้การ์ดหน่วยความจำสองใบพร้อมกัน
-
ปิดกล้องทุกครั้งก่อนใส่หรือถอดการ์ดหน่วยความจำ
-
ห้ามดันการ์ดหน่วยความจำขณะที่กดปุ่มเปิด การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังนี้อาจทำให้กล้องหรือการ์ดหน่วยความจำชำรุดเสียหาย
-
เปิดฝาปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ด
เปิดฝาป้องกันปุ่มกดเปิดฝาปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ด (q) แล้วกดปุ่มปลดล็อค (w) เพื่อเปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ด (e)
-
ใส่การ์ดหน่วยความจำ
การใส่การ์ดหน่วยความจำกลับด้านหรือผิดด้านอาจทำให้กล้องหรือการ์ดหน่วยความจำชำรุดเสียหายได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการ์ดอยู่ในทิศทางที่ถูกต้อง
จับการ์ดโดยหันด้านที่ติดฉลากด้านหลังไปทางจอภาพ แล้วดันเข้าไปในช่องบรรจุการ์ดจนสุด เมื่อใส่การ์ดหน่วยความจำเข้าไปจนสุด ปุ่มเปิด (q) จะดีดขึ้น และไฟแสดงการเข้าถึงการ์ดหน่วยความจำสีเขียว (w) จะสว่างขึ้นชั่วครู่
-
ปิดฝาปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ด
หากใช้งานการ์ดหน่วยความจำกับกล้องเป็นครั้งแรกหลังจากใช้การ์ดหรือฟอร์แมตการ์ดในอุปกรณ์อื่น ให้ฟอร์แมตการ์ดด้วยกล้องก่อนดำเนินการต่อ
เมื่อใส่การ์ดหน่วยความจำสองใบ (ช่องละใบในช่องที่ 1 และ 2 ) สามารถเลือกหน้าที่ของการ์ดในช่องที่ 2 ได้โดยใช้ [
] ในเมนูถ่ายภาพ-
[
]: ภาพจะถูกบันทึกลงในการ์ดในช่องที่ 2 เฉพาะเมื่อการ์ดในช่องที่ 1 เต็ม -
[
]: บันทึกสำเนาที่เหมือนกันสองสำเนา ลงในการ์ดหน่วยความจำแต่ละใบโดยทั้งสองภาพมีคุณภาพและขนาดภาพเท่ากัน -
[
]: สำเนาภาพ NEF (RAW) ที่ถ่ายจากการตั้งค่า NEF (RAW) + JPEG จะถูกบันทึกลงในการ์ดในช่องที่ 1 เท่านั้น ส่วนสำเนาภาพ JPEG ไปยังการ์ดในช่องที่ 2 เท่านั้น -
[
]: บันทึกสำเนาภาพ JPEG สองสำเนา ลงในการ์ดหน่วยความจำแต่ละใบ แต่มีขนาดต่างกัน
การนำการ์ดหน่วยความจำออก
หลังจากไฟแสดงการเข้าถึงการ์ดหน่วยความจำดับลงแล้ว ให้ปิดกล้องและเปิดฝาปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ดหน่วยความจำ กดปุ่มเปิด (q) เพื่อให้การ์ดดีดตัวออกมาส่วนหนึ่ง (w); จากนั้นจะสามารถดึงการ์ดหน่วยความจำออกด้วยมือได้
-
การ์ดหน่วยความจำอาจเกิดความร้อนหลังการใช้งาน ปฏิบัติตามข้อควรระวังในการถอดการ์ดหน่วยความจำออกจากกล้อง
-
ห้ามปฏิบัติดังต่อไปนี้ในระหว่างการฟอร์แมตหรือขณะกำลังบันทึก, ลบ หรือคัดลอกข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังนี้อาจทำให้ข้อมูลสูญหาย หรือทำให้กล้องหรือการ์ดชำรุดเสียหายได้
-
ห้ามถอดหรือใส่การ์ดหน่วยความจำ
-
ห้ามปิดกล้อง
-
ห้ามถอดแบตเตอรี่ออก
-
ห้ามถอดอะแดปเตอร์ AC
-
-
อย่าใช้นิ้วมือหรือวัตถุที่เป็นโลหะสัมผัสกับขั้วต่อการ์ด
-
อย่าใช้แรงมากเกินไปเมื่อใช้งานการ์ดหน่วยความจำ การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังนี้อาจทำให้การ์ดชำรุดเสียหายได้
-
อย่าหักงอหรือทำการ์ดหน่วยความจำตกหล่น หรือปล่อยให้มีการกระแทกอย่างรุนแรง
-
อย่าให้การ์ดหน่วยความจำสัมผัสกับน้ำ ความร้อน หรือแสงแดดโดยตรง
-
อย่าฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำในคอมพิวเตอร์
สัญลักษณ์การ์ดหน่วยความจำในแผงควบคุมด้านบนจะสว่างเมื่อใส่การ์ดหน่วยความจำแล้ว (ตัวอย่างในภาพประกอบแสดงจอแสดงผลเมื่อใส่การ์ดหน่วยความจำสองใบ)
หากการ์ดหน่วยความจำเต็มหรือเกิดข้อผิดพลาดขึ้น สัญลักษณ์ของการ์ดดังกล่าวจะกะพริบ
หากไม่ได้ใส่การ์ดหน่วยความจำไว้ การแสดงผลจำนวนภาพที่สามารถบันทึกได้ที่แสดงอยู่ในช่องมองภาพและแผงควบคุมด้านบนจะแสดง S หากปิดกล้องโดยมีแบตเตอรี่บรรจุอยู่ภายในและไม่ได้ใส่การ์ดหน่วยความจำ S จะแสดงในแผงควบคุมด้านบน
การตั้งค่ากล้อง
ตัวเลือกภาษาในเมนูตั้งค่าจะถูกไฮไลท์โดยอัตโนมัติเมื่อเปิดเมนูครั้งแรก เลือกภาษาและตั้งนาฬิกาในกล้อง
-
เปิดกล้อง
-
ไฮไลท์ [ ] ในเมนูตั้งค่าแล้วกดปุ่ม 2
-
รายการ [G หลังจากซื้อ
] จะถูกไฮไลท์โดยอัตโนมัติในเมนูตั้งค่าในครั้งแรกที่กดปุ่ม -
สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการใช้เมนู โปรดดูที่ “การใช้งานเมนู” (การใช้เมนู)
-
-
เลือกภาษา
กดปุ่ม 1 หรือ 3 เพื่อไฮไลท์ภาษาที่ต้องการ แล้วกดปุ่ม J (ภาษาที่มีให้เลือกจะขึ้นอยู่กับประเทศหรือภูมิภาคที่ซื้อกล้อง)
-
ไฮไลท์ [2] แล้วกดปุ่ม
-
เลือกโซนเวลา
-
เลือก [
] ในจอแสดงผล [ ] -
ไฮไลท์โซนเวลาในจอแสดงผล [J
] แล้วกดปุ่ม -
จอแสดงผลจะแสดงแผนที่โซนเวลาที่แสดงเมืองที่เลือกไว้ในโซนที่เลือกและความแตกต่างของเวลาในโซนที่เลือกเปรียบเทียบกับ UTC
-
-
เปิดหรือปิดชดเชยเวลากลางวัน
-
เลือก [
] ในจอแสดงผล [ ] -
ไฮไลท์ [J
] (เปิดชดเชยเวลากลางวัน) หรือ [ ] (ปิดชดเชยเวลากลางวัน) แล้วกดปุ่ม -
การเลือก [
] จะทำให้นาฬิกาเพิ่มเวลาขึ้นหนึ่งชั่วโมง; หากต้องการยกเลิก ให้เลือก [ ]
-
-
ตั้งนาฬิกา
-
เลือก [
] ในจอแสดงผล [ ] -
กดปุ่ม J หลังใช้ปุ่มเลือกคำสั่งเพื่อตั้งนาฬิกาไปที่วันที่และเวลาในโซนเวลาที่เลือกไว้ (โปรดทราบว่ากล้องจะใช้นาฬิกาแบบ 24 ชั่วโมง)
-
-
เลือกรูปแบบวันที่
-
เลือก [
] ในจอแสดงผล [ ] -
ไฮไลท์การแสดงลำดับวันที่ที่ต้องการ (ปี เดือน และวัน) แล้วกดปุ่ม J
-
-
ออกจากเมนู
กดปุ่มกดชัตเตอร์ลงครึ่งหนึ่งเบาๆ เพื่อออกไปยังโหมดถ่ายภาพ
นาฬิกาในกล้องได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียม CR1616 ที่ไม่สามารถชาร์จซ้ำได้แยกต่างหากโดยมีอายุการใช้งานประมาณสองปี เมื่อระดับแบตเตอรี่ต่ำ สัญลักษณ์ B จะปรากฏบนแผงควบคุมด้านบน ขณะที่ฟังก์ชั่นตั้งเวลาสแตนด์บายทำงาน เป็นการแสดงว่าถึงเวลาหาซื้อเพื่อเปลี่ยนใหม่ สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแบตเตอรี่นาฬิกา โปรดดู “การเปลี่ยนแบตเตอรี่นาฬิกา” ( การเปลี่ยนแบตเตอรี่นาฬิกา )
หากต้องการบันทึกตำแหน่งของท่านและ UTC (Universal Coordinated Time (เวลาสากลเชิงพิกัด)) ในปัจจุบัน ให้เลือก [
] สำหรับ [ ] > [ ] ในการตั้งนาฬิกาในกล้องตามเวลาที่ได้รับจากตัวรับสัญญาณ GNSS ในตัว ให้เลือก [ ] สำหรับ [ ] > [ ]ใช้แอพ SnapBridge เพื่อซิงค์นาฬิกาของกล้องให้ตรงกับนาฬิกาของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (สมาร์ทดีไวซ์) สำหรับรายละเอียด โปรดดูวิธีใช้ออนไลน์ของ SnapBridge