อุปกรณ์เสริมอื่นๆ ที่รองรับ
อุปกรณ์เสริมหลายชนิดสามารถใช้งานได้กับกล้อง Nikon ของท่าน
-
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบรีชาร์จ EN‑EL18c: แบตเตอรี่ EN‑EL18c สามารถใช้ได้กับกล้องดิจิตอล Nikon D6 แบตเตอรี่ EN‑EL18c สามารถชาร์จและปรับเทียบได้โดยใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH‑26a
-
สามารถใช้แบตเตอรี่ EN‑EL18b/EN‑EL18a/EN‑EL18 ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่าในการชาร์จหนึ่งครั้งของ EN‑EL18 จะสามารถถ่ายภาพได้ในจำนวนที่น้อยกว่า EN‑EL18c/EN‑EL18b/EN‑EL18a (ความทนทานของแบตเตอรี่)
-
-
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH‑26a: สามารถใช้ MH‑26a เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ EN‑EL18c/EN‑EL18b/EN‑EL18a/EN‑EL18 ได้ MH‑26a ยังสามารถใช้เพื่อปรับเทียบแบตเตอรี่ได้เช่นกัน
-
เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH‑26 สามารถใช้แทน MH‑26a ได้
-
-
ปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC EP‑6, อะแดปเตอร์ AC EH‑6c: ใช้อะแดปเตอร์ AC เพื่อจ่ายไฟให้กล้องได้นานขึ้น
-
ต้องใช้ EP‑6 ในการเชื่อมต่อ EH‑6c เข้ากับกล้อง โปรดดูรายละเอียดที่ “การเสียบปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC และอะแดปเตอร์ AC” ( การเสียบปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC และอะแดปเตอร์ AC )
-
อะแดปเตอร์ AC EH‑6b, EH‑6a และ EH‑6 สามารถใช้แทน EH‑6c ได้
-
ฝาครอบช่องเสียบอุปกรณ์เสริม BS‑3/BS‑1: ฝาครอบช่องเสียบอุปกรณ์เสริมใช้สำหรับป้องกันช่องเสียบเมื่อไม่มีชุดแฟลชเสริมติดตั้งอยู่ (ฝาครอบช่องเสียบอุปกรณ์เสริม BS‑3)
ฝาปิดตัวกล้อง BF‑1B/ฝาปิดตัวกล้อง BF‑1A: ฝาปิดตัวกล้องช่วยระบบป้องกันฝุ่นไม่ให้มีฝุ่นเกาะจับเมื่อไม่ได้ใส่เลนส์
-
ขอบยางรองตา DK‑19: ขอบยางรองตาที่สามารถติดตั้งกับช่องมองภาพของกล้องได้ DK‑19 จะทำให้ดูภาพบนช่องมองภาพได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตา
-
เลนส์ช่องมองภาพแบบปรับแก้สายตา DK‑17C: เลนส์เหล่านี้สามารถใส่ลงในยางรองช่องมองภาพเพื่อช่วยให้ช่างภาพที่สายตายาวและสายตาสั้นถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น เลือกจากเลนส์ที่มีค่าไดออปเตอร์ –3, –2, 0, +1 และ +2 เมตร–1 ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ลองเลนส์ในร้านก่อนซื้อ เนื่องจากผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล เลนส์ปรับแก้สายตา (การติดตั้งเลนส์ช่องมองภาพแบบปรับแก้สายตา) สามารถใช้กับค่าไดออปเตอร์ที่เกินค่าการปรับแก้สายตาของกล้อง (–3 ถึง +1 เมตร–1)
-
อุปกรณ์ขยายภาพที่ช่องมองภาพ DK‑17M: เมื่อติดตั้งเข้ากับช่องมองภาพของกล้อง DK‑17M จะเพิ่มกำลังขยายประมาณ 1.2 เท่า
-
อุปกรณ์ขยายภาพที่ช่องมองภาพ DG‑2: DG‑2 จะขยายฉากที่แสดงอยู่ตรงกลางช่องมองภาพ ใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการการโฟกัสที่แม่นยำเป็นพิเศษ
-
อะแดปเตอร์ช่องมองภาพ DK‑18: อะแดปเตอร์ที่ใช้เมื่อประกอบอุปกรณ์ขยายภาพ DG‑2 หรือช่องมองภาพมุมฉาก DR-3 (การถอดอะแดปเตอร์ช่องมองภาพ)
-
อะแดปเตอร์ช่องมองภาพ DK‑27: DK‑27 จะจัดมาให้พร้อมกับกล้อง
-
กระจกช่องมองป้องกันไอน้ำเกาะ DK‑14/DK‑17A: อุปกรณ์เหล่านี้จะป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าเมื่อใช้งานกล้องในสถานที่ที่มีความชื้นหรือมีอากาศหนาวเย็น
-
กระจกช่องมองเคลือบฟลูออรีน DK‑17F: DK‑17F จะจัดมาให้พร้อมกับกล้อง กระจกป้องกันเฉพาะของ Nikon มีคุณสมบัติการเคลือบฟลูออรีนที่ทำความสะอาดง่ายบนพื้นผิวทั้งสองแบบ
-
ช่องมองภาพมุมฉาก DR-5: การติดตั้ง DR-5 เข้ากับช่องมองภาพเป็นมุมฉาก ทำให้สามารถดูภาพบนช่องมองภาพลงมาจากด้านบนเมื่อวางกล้องเพื่อถ่ายภาพใน “แนวนอน” (กว้าง) เลือกจากการขยาย 1 เท่าและ 2 เท่า * ใช้หนึ่งเท่าเพื่อดูภาพทั้งเฟรม ส่วนสองเท่าเพื่อการโฟกัสที่แม่นยำขึ้น รองรับการปรับแก้สายตา
-
ไม่สามารถมองเห็นขอบของกรอบเมื่อขยายภาพ
-
-
ช่องมองภาพมุมฉาก DR-4: การติดตั้ง DR-4 เข้ากับช่องมองภาพเป็นมุมฉาก ทำให้สามารถดูภาพบนช่องมองภาพลงมาจากด้านบนเมื่อวางกล้องเพื่อถ่ายภาพใน “แนวนอน” (กว้าง)
-
สามารถใช้ฟิลเตอร์สีเป็นกลาง (NC) เพื่อปกป้องเลนส์
-
กล้องนี้ไม่สามารถใช้ร่วมกับฟิลเตอร์โพลาไรซ์แบบลีเนียร์ได้ ให้ใช้ฟิลเตอร์โพลาไรซ์แบบหมุนได้ C-PL หรือ C-PLII แทน
-
ฟิลเตอร์อาจทำให้เกิดแสงโกสต์เมื่อวัตถุอยู่ภายใต้แสงจ้า หรือเมื่อมีแหล่งกำเนิดแสงจ้าอยู่ในกรอบภาพ สามารถนำฟิลเตอร์ออกได้หากเกิดแสงโกสต์ขึ้น
-
การวัดแสงเฉลี่ยทั้งภาพ RGB และ 3D-RGB อาจไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการด้วยฟิลเตอร์ที่มีปัจจัยกำหนดค่าแสง (ฟิลเตอร์แฟคเตอร์) เกิน 1 เท่า (Y44, Y48, Y52, O56, R60, X0, X1, C-PL, ND2S, ND4, ND4S, ND8, ND8S, ND400, A2, A12, B2, B8, B12); เราขอแนะนำให้เลือก [
] แทน ดูรายละเอียดในคู่มือของฟิลเตอร์ -
ฟิลเตอร์สำหรับถ่ายภาพเอ็ฟเฟ็กต์พิเศษอาจรบกวนการทำงานของโฟกัสอัตโนมัติหรือการวัดระยะแบบอิเล็กทรอนิกส์
ตัวส่งข้อมูลแบบไร้สาย WT‑6: ใช้ตัวส่งข้อมูลแบบไร้สายเพื่ออัปโหลดภาพผ่านเครือข่ายไร้สายหรือควบคุมกล้องจากคอมพิวเตอร์ที่รันโปรแกรม Camera Control Pro 2 (มีแยกจำหน่ายต่างหาก) ท่านยังสามารถถ่ายภาพและเรียกดูภาพระยะไกลได้จากคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทดีไวซ์
-
ต้องมีความรู้เกี่ยวกับเครือข่ายไร้สายและเครือข่ายขั้นพื้นฐาน โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้อัพเดทซอฟต์แวร์ตัวส่งข้อมูลแบบไร้สายเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว
-
ตัวส่งข้อมูลแบบไร้สาย WT‑5 ไม่สามารถใช้ได้
-
รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑R10/WR‑T10: เมื่อ WR‑R10 เชื่อมต่อกับขั้วต่อรีโมต 10-pin โดยใช้อะแดปเตอร์ WR‑A10 โดยสามารถควบคุมกล้องได้จากระยะไกลโดยใช้รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑T10
-
ยังสามารถใช้ WR‑R10 เพื่อควบคุมชุดแฟลชที่ควบคุมด้วยสัญญาณวิทยุ
-
ในกรณีที่จะใช้สำหรับการลั่นชัตเตอร์พร้อมกันของกล้องหลายตัว ให้เตรียมกล้องหลายตัวที่จับคู่กับรีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑R10 แล้ว
-
-
รีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑1: ใช้ชุด WR‑1 กับ WR‑R10 หรือรีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑T10 หรือกับรีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑1 ตัวอื่น โดยชุด WR‑1 ทำหน้าที่ได้ทั้งตัวส่งข้อมูลหรือตัวรับข้อมูล เมื่อ WR‑R10 หรือ WR‑1 ที่ได้รับการกำหนดค่าให้เป็นตัวรับสัญญาณเชื่อมต่อกับขั้วต่อรีโมต 10-pin สามารถกำหนดค่า WR‑T10 หรือ WR‑1 เครื่องที่สองเป็นตัวส่งสัญญาณและใช้เพื่อถ่ายภาพได้จากระยะไกล อีกทั้งยังสามารถปรับการตั้งค่ากล้องได้โดยใช้ WR‑1 ที่ได้รับการกำหนดค่าให้เป็นตัวส่งสัญญาณ
-
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัพเดทเฟิร์มแวร์สำหรับ WR‑R10 และ WR‑1 ไปเป็นรุ่นล่าสุดแล้ว (เฟิร์มแวร์ WR‑R10 รุ่น 3.0 ขึ้นไปและเฟิร์มแวร์ WR‑1 รุ่น 1.0.1 ขึ้นไป) สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับการอัพเดทเฟิร์มแวร์ โปรดดูในเว็บไซต์ Nikon ในพื้นที่ของท่าน ปรึกษาตัวแทนบริการของ Nikon ที่ได้รับการแต่งตั้งเมื่ออัพเดทเฟิร์มแวร์สำหรับ WR‑R10 จากรุ่นก่อนหน้าไปเป็นรุ่น 2.0 ถึงรุ่น 3.0 หรือใหม่กว่า
กล้องจะมีขั้วต่อรีโมต 10-pin สำหรับการถ่ายภาพด้วยรีโมตคอนโทรลและการถ่ายภาพอัตโนมัติ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ใส่ฝาปิดขั้วต่อเมื่อไม่ใช้งานขั้วต่อ ฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมอื่นที่สะสมในหน้าสัมผัสของขั้วต่ออาจทำให้กล้องทำงานผิดปกติ
-
สายลั่นชัตเตอร์ MC‑22/MC‑22A (ความยาวประมาณ 1 เมตร): ตัวลั่นชัตเตอร์ระยะไกลที่มีขั้วสีน้ำเงิน สีเหลือง และสีดำ ใช้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ลั่นชัตเตอร์ระบบรีโมต ทำให้ควบคุมผ่านทางเสียงและสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์
-
สายลั่นชัตเตอร์ MC‑30/MC‑30A (ความยาวประมาณ 80 ซม.): ตัวลั่นชัตเตอร์ระยะไกล; สามารถใช้ลดอาการกล้องสั่นไหว
-
สายลั่นชัตเตอร์ MC‑36/MC‑36A (ความยาวประมาณ 85 ซม.): ตัวลั่นชัตเตอร์ระยะไกลพร้อมตัวตั้งเวลาสำหรับการถ่ายภาพแบบเว้นช่วงเวลา
-
สายต่อ MC‑21/MC‑21A (ความยาวประมาณ 3 เมตร): ใช้เชื่อมต่อกับ ML-3 หรือ MC ซีรีส์ 20, 22, 22A, 23, 23A, 25, 25A, 30, 30A, 36 หรือ 36A แต่โปรดทราบว่าไม่สามารถเชื่อมต่อสายต่อตั้งแต่สองสายขึ้นไปด้วยกันได้
-
สายต่อเชื่อม MC‑23/MC‑23A (ความยาวประมาณ 40 ซม.): ใช้ MC‑23 หรือ 23A เพื่อเชื่อมต่อกล้องสองตัวผ่านทางขั้วต่อ 10-pin สำหรับการทำงานพร้อมกัน
-
สายอะแดปเตอร์ MC‑25/MC‑25A (ความยาวประมาณ 20 ซม.): สายอะแดปเตอร์แบบ 2-pin ถึง 10-pin ใช้สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่มีขั้วต่อ 2-pin รวมทั้งชุดควบคุมวิทยุ MW-2, อุปกรณ์กำหนดช่วงเวลาบันทึกภาพ (Intervalometer) MT-2 และชุดควบคุม ML-2
-
อะแดปเตอร์ WR‑A10 WR: ใช้อะแดปเตอร์เพื่อเชื่อมต่อรีโมตคอนโทรลแบบไร้สาย WR‑R10 กับกล้องถ่ายรูปด้วยขั้วต่อรีโมต 10-pin
-
ชุดควบคุมรีโมตคอนโทรลไร้สาย ML-3: ควบคุมระยะไกลด้วยแสงอินฟราเรดได้ไกลถึง 8 เมตร
-
สาย USB UC‑E24: สาย USB ที่มีช่องต่อประเภท C สำหรับเชื่อมต่อกับกล้องถ่ายรูปและช่องต่อประเภท A สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ USB
-
สาย USB UC‑E25: สาย USB ที่ใช้กับช่องต่อประเภท C
สาย HDMI HC-E1: สาย HDMI ที่มีช่องต่อประเภท C สำหรับเชื่อมต่อกับกล้องถ่ายรูปและช่องต่อประเภท A สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ HDMI
-
ไมโครโฟนสเตอริโอ ME‑1: เสียบ ME‑1 เข้ากับแจ๊คไมโครโฟนของกล้องเพื่อบันทึกเสียงสเตอริโอ การใช้ไมโครโฟนภายนอกจะลดโอกาสการเกิดเสียงรบกวนจากอุปกรณ์ เช่น เสียงที่เกิดจากเลนส์ระหว่างใช้งานโฟกัสอัตโนมัติ
-
ไมโครโฟนไร้สาย ME‑W1: ไมโครโฟนบลูทูธไร้สาย ใช้ ME‑W1 สำหรับการบันทึกเสียงโดยไม่ใช้กล้อง
ฝาปิดช่องต่อ UF-6 สำหรับสายปลั๊กสเตอริโอขนาดเล็ก: ป้องกันการตัดการเชื่อมต่อโดยไม่ตั้งใจของสายปลั๊กขนาดเล็กสำหรับไมโครโฟนสเตอริโอ ME‑1 ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม
-
รายการที่มีอาจจะแตกต่างกันไปตามประเทศหรือภูมิภาค
-
โปรดดูข้อมูลล่าสุดได้ที่โบรชัวร์หรือเว็บไซต์ของเรา
ฝาครอบช่องเสียบอุปกรณ์เสริม สามารถใช้ป้องกันช่องเสียบอุปกรณ์เสริมหรือป้องกันไม่ให้แสงสะท้อนจากชิ้นส่วนที่เป็นโลหะของช่องเสียบอุปกรณ์เสริมปรากฏขึ้นในภาพ เลื่อนฝาครอบเข้าไปในช่องเสียบตามภาพที่แสดง หากต้องการถอดฝาครอบ โปรดจับกล้องให้แน่น กดฝาครอบลงด้วยนิ้วโป้งแล้วเลื่อนตามทิศทางในภาพที่แสดง
ถอดยางรองช่องมองภาพ DK‑17F ออกก่อนที่จะประกอบเลนส์ช่องมองภาพแบบปรับแก้สายตา กดก้านทั้งสองด้านของอะแดปเตอร์ช่องมองภาพพร้อมกันเพื่อปลดล็อคช่องมองภาพ (q) จากนั้น คลายช่องมองภาพออกตามที่แสดง (w)
กดแล้วยกก้านทั้งสองด้านพร้อมกัน (q) แล้วถอดอะแดปเตอร์ตามที่แสดง (w)
เพื่อป้องกันการตัดการเชื่อมต่อโดยไม่ตั้งใจ ให้ติดตัวล็อคสายที่จัดมาให้กับสาย USB หรือ HDMI ตามที่แสดงในภาพตัวอย่าง (โปรดทราบว่า ตัวล็อคสายอาจจะไม่สามารถใช้กับสาย HDMI ของผู้ผลิตรายอื่นได้) ภาพประกอบแสดงสาย USB
สาย USB |
สาย HDMI |
การใช้งานเหมือนกันทั้งสาย HDMI และ USB |
การเสียบปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC และอะแดปเตอร์ AC
ปิดการทำงานของกล้องก่อนเสียบอุปกรณ์เสริมปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC และอะแดปเตอร์ AC
-
ถอดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ BL‑6
ยกก้านล็อคฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ ดันไปที่ตำแหน่งเปิด (A) (q) แล้วถอดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ BL‑6 (w)
-
เชื่อมต่ออะแดปเตอร์ AC EH‑6c เข้ากับปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC EP‑6
-
เดินสาย DC ตามร่องเดินสายสัญญาณปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC (q) แล้วเลื่อนลงจนถึงด้านล่างของช่อง
-
เสียบปลั๊ก DC เข้าไปในช่องต่อ DC IN (w)
-
-
เสียบปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC
เสียบปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC เข้าไปในช่องบรรจุแบตเตอรี่จนสุดตามภาพประกอบ
-
ล็อคปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC
-
หมุนก้านล็อคไปที่ตำแหน่งปิด (q) แล้วพับครึ่งตามภาพประกอบ (w)
-
ในการป้องกันปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC ไม่ให้เลื่อนออกมาขณะใช้งาน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าล็อคแน่นดีแล้ว
-
ระดับแบตเตอรี่จะไม่ปรากฏบนแผงควบคุมด้านบนเมื่อใช้พลังงานจากอะแดปเตอร์ AC และปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC
-