การร้อยสายคล้อง

ในการร้อยสายคล้อง (ไม่ว่าจะเป็นสายคล้องที่ให้มาหรือซื้อแยกต่างหาก):

การชาร์จแบตเตอรี่

ชาร์จแบตเตอรี่ EN‑EL15b ในเครื่องชาร์จแบตเตอรี่ MH‑25a ที่ให้มาก่อนใช้งาน ใส่แบตเตอรี่และเสียบเครื่องชาร์จ (ขึ้นอยู่กับประเทศหรือภูมิภาค เครื่องชาร์จอาจให้มาพร้อมกับอะแดปเตอร์ AC เสียบผนัง หรือสายไฟอย่างใดอย่างหนึ่ง)

  • อะแดปเตอร์ AC แบบเสียบผนัง: หลังจากเสียบอะแดปเตอร์ AC แบบเสียบผนังเข้ากับช่องเสียบ AC ของเครื่องชาร์จ (q) ให้เลื่อนก้านล็อคอะแดปเตอร์ AC แบบเสียบผนังตามที่แสดงในภาพ (w) แล้วหมุนอะแดปเตอร์ 90 องศาเพื่อให้อยู่ในตำแหน่ง (e)

  • สายไฟ: หลังจากต่อสายไฟเข้ากับปลั๊กตามทิศทางที่แสดงแล้ว ให้ใส่แบตเตอรี่แล้วเสียบปลั๊กสายไฟ

  • แบตเตอรี่ที่หมดแล้วจะใช้เวลาชาร์จจนเต็มประมาณสองชั่วโมง 35 นาที

    กำลังชาร์จแบตเตอรี่ (กะพริบ)

    การชาร์จเสร็จสมบูรณ์ (หยุดนิ่ง)

แบตเตอรี่และเครื่องชาร์จ

อ่านและทำตามคำเตือนและข้อควรระวังใน “เพื่อความปลอดภัยของท่าน” (เพื่อความปลอดภัยของท่าน) และ “การดูแลรักษากล้องและแบตเตอรี่: ข้อควรระวัง” (การดูแลรักษากล้องและแบตเตอรี่: ข้อควรระวัง)

ไฟสถานะ CHARGE (การชาร์จ) กะพริบอย่างรวดเร็ว

หากไฟสถานะ CHARGE (การชาร์จ) กะพริบอย่างรวดเร็ว (8 ครั้งต่อวินาที):

  • การชาร์จแบตเตอรี่เกิดข้อผิดพลาด: ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จและนำแบตเตอรี่ออกแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่

  • อุณหภูมิแวดล้อมร้อนเกินไปหรือเย็นเกินไป: ใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่ที่อุณหภูมิภายในช่วงอุณหภูมิที่กำหนด (0 – 40 °C)

หากยังมีปัญหาอยู่อีก ถอดปลั๊กเครื่องชาร์จและหยุดการชาร์จ นำแบตเตอรี่และเครื่องชาร์จไปที่ตัวแทนบริการของ Nikon ที่ได้รับการแต่งตั้ง

การใส่แบตเตอรี่

  • ปิดกล้องก่อนใส่แบตเตอรี่หรือนำแบตเตอรี่ออก

  • ใช้แบตเตอรี่กดก้านล็อคแบตเตอรี่สีส้มไปอีกด้านหนึ่ง เลื่อนแบตเตอรี่ในช่องบรรจุแบตเตอรี่จนกระทั่งก้านล็อคได้ล็อคเข้าที่

การนำแบตเตอรี่ออก

ปิดการทำงานของกล้องแล้วเปิดฝาปิดช่องบรรจุแบตเตอรี่ กดก้านล็อคแบตเตอรี่ตามทิศทางที่แสดงในภาพเพื่อปลดล็อคแบตเตอรี่ แล้วใช้มือดึงแบตเตอรี่ออก

การประกอบเลนส์

  • เลนส์ที่ใช้ในคู่มือนี้เพื่อแสดงเป็นภาพประกอบโดยทั่วไปคือ AF‑S NIKKOR 24–120mm f/4G ED VR

  • ระวังอย่าให้ฝุ่นเข้าไปในกล้อง

  • ตรวจสอบว่าปิดการทำงานกล้องก่อนทำการประกอบเลนส์

    • ถอดฝาปิดตัวกล้อง (q, w) และฝาปิดเลนส์ด้านหลัง (e, r) ออก

    • จัดเครื่องหมายแสดงตำแหน่งติดตั้งบนตัวกล้อง (t) และเลนส์ (y) ให้ตรงกัน

    • หมุนเลนส์ตามภาพที่แสดงจนคลิกเข้าที่ (u, i)

  • ถอดฝาปิดหน้าเลนส์ออกก่อนถ่ายภาพ

เลนส์ CPU ที่มีวงแหวนปรับรูรับแสง

เมื่อใช้เลนส์ CPU ที่มีวงแหวนปรับรูรับแสง ( การระบุเลนส์ CPU และเลนส์ชนิด G, E และ D ) ให้ล็อครูรับแสงไว้ที่การตั้งค่าน้อยที่สุด (ค่ารูรับแสงสูงสุด)

การถอดเลนส์

  • หลังจากปิดกล้อง ให้กดปุ่มถอดเลนส์ (q) ค้างไว้ขณะหมุนเลนส์ไปตามทิศทางที่แสดงในภาพ (w)

  • หลังถอดเลนส์แล้ว ให้ใส่ฝาปิดหน้าเลนส์และฝาปิดตัวกล้องกลับเข้าที่

การใส่การ์ดหน่วยความจำ

  • ปิดกล้องทุกครั้งก่อนใส่หรือถอดการ์ดหน่วยความจำ

  • กล้องมีช่องบรรจุแผ่นการ์ดหน่วยความจำสองช่อง: ช่องที่ 1 (q) และช่องที่ 2 (w) หากท่านต้องการใช้การ์ดหน่วยความจำเพียงการ์ดเดียว ให้ใส่การ์ดลงในช่องที่ 1

  • ถือการ์ดหน่วยความจำตามแนวที่แสดงในภาพ แล้วสอดเข้าไปในช่องจนคลิกเข้าที่

การนำการ์ดหน่วยความจำออก

หลังจากไฟแสดงการเข้าถึงการ์ดหน่วยความจำดับลงแล้ว ให้ปิดกล้องและเปิดฝาปิดช่องบรรจุแผ่นการ์ดหน่วยความจำ กดการ์ดเข้าไปเพื่อให้การ์ดดีดตัวออกมา (q); จากนั้นจะสามารถดึงการ์ดออกด้วยมือได้ (w)

การ์ดหน่วยความจำ
  • การ์ดหน่วยความจำอาจเกิดความร้อนหลังการใช้งาน ปฏิบัติตามข้อควรระวังในการถอดการ์ดหน่วยความจำออกจากกล้อง

  • ห้ามปฏิบัติดังต่อไปนี้ในระหว่างการฟอร์แมตหรือขณะกำลังบันทึก, ลบ หรือคัดลอกข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่นๆ การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังนี้อาจทำให้ข้อมูลสูญหาย หรือทำให้กล้องหรือการ์ดชำรุดเสียหายได้

    • ห้ามถอดหรือใส่การ์ดหน่วยความจำ

    • ห้ามปิดกล้อง

    • ห้ามถอดแบตเตอรี่ออก

    • ห้ามถอดอะแดปเตอร์ AC

  • อย่าใช้นิ้วมือหรือวัตถุที่เป็นโลหะสัมผัสกับขั้วต่อการ์ด

  • อย่าใช้แรงมากเกินไปเมื่อใช้งานการ์ดหน่วยความจำ การไม่ปฏิบัติตามข้อควรระวังนี้อาจทำให้การ์ดชำรุดเสียหายได้

  • อย่าหักงอหรือทำการ์ดหน่วยความจำตกหล่น หรือปล่อยให้มีการกระแทกอย่างรุนแรง

  • อย่าให้การ์ดหน่วยความจำสัมผัสกับน้ำ ความร้อน หรือแสงแดดโดยตรง

  • อย่าฟอร์แมตการ์ดหน่วยความจำในคอมพิวเตอร์

ไม่ได้ใส่การ์ดหน่วยความจำ

หากไม่ได้ใส่การ์ดหน่วยความจำไว้ การแสดงผลจำนวนภาพที่สามารถบันทึกได้ที่แสดงอยู่ในแผงควบคุมและในช่องมองภาพจะแสดง S หากปิดกล้องโดยมีแบตเตอรี่บรรจุอยู่ภายในและไม่ได้ใส่การ์ดหน่วยความจำ S จะแสดงในแผงควบคุม

สวิทช์ป้องกันการบันทึกข้อมูลทับ
  • การ์ดหน่วยความจำ SD จะมีสวิทช์ป้องกันการบันทึกข้อมูลทับ เลื่อนสวิทช์ไปที่ตำแหน่ง “lock” จะป้องกันการ์ดจากการบันทึกข้อมูลทับ ป้องกันข้อมูลที่มีอยู่

  • หากท่านพยายามลั่นชัตเตอร์ในขณะที่ใส่การ์ดที่ป้องกันการบันทึกข้อมูลทับ คำเตือนจะปรากฏขึ้นและจะไม่มีการบันทึกภาพ ปลดล็อคการ์ดหน่วยความจำก่อนที่จะถ่ายหรือลบภาพ

การตั้งค่ากล้อง

เลือกภาษาและตั้งนาฬิกาในกล้อง ไม่สามารถถ่ายภาพหรือปรับการตั้งค่าได้จนกว่าจะตั้งนาฬิกา

  1. เปิดกล้อง

    เมื่อเปิดกล้องเป็นครั้งแรกหลังจากซื้อ ข้อความเลือกภาษาจะปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ภาษาที่สามารถใช้งานได้จะขึ้นอยู่กับประเทศหรือภูมิภาคที่ซื้อกล้อง

    ใช้ปุ่มเลือกคำสั่งและปุ่ม J เพื่อค้นหาเมนู

    กดปุ่ม 1 และ 3 เพื่อไฮไลท์ภาษาที่ต้องการแล้วกดปุ่ม J เพื่อเลือก สามารถเปลี่ยนภาษาได้ตลอดเวลาโดยใช้รายการ [ภาษา (Language)] ในเมนูตั้งค่า

  2. ตั้งนาฬิกาในกล้อง

    ใช้ปุ่มเลือกคำสั่งและปุ่ม J เพื่อตั้งนาฬิกาในกล้อง

    เลือกโซนเวลา

    เลือกรูปแบบวันที่

    เลือกตัวเลือกชดเชยเวลากลางวัน

    ตั้งวันที่และเวลา (โปรดทราบว่ากล้องจะใช้นาฬิกาแบบ 24 ชั่วโมง)

    สามารถตั้งนาฬิกาได้ตลอดเวลาโดยใช้รายการ [โซนเวลาและวันที่] > [วันที่และเวลา] ในเมนูตั้งค่า

สัญลักษณ์ B (“ยังไม่ได้ตั้งเวลา”)

สัญลักษณ์ B ที่กะพริบในแผงควบคุมแสดงว่านาฬิกาของกล้องถูกรีเซ็ต วันที่และเวลาที่ใช้กับภาพที่ถ่ายใหม่จะไม่ถูกต้อง; ให้ใช้รายการ [โซนเวลาและวันที่] > [วันที่และเวลา] ในเมนูตั้งค่าเพื่อตั้งค่านาฬิกาให้เป็นเวลาและวันที่ที่ถูกต้อง นาฬิกาในกล้องจะได้รับพลังงานจากแบตเตอรี่นาฬิกาแยกต่างหาก แบตเตอรี่นาฬิกาจะชาร์จเมื่อใส่แบตเตอรี่หลักไว้หรือเมื่อกล้องใช้ไฟจากปลั๊กต่ออะแดปเตอร์ AC และอะแดปเตอร์ AC ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริม ใช้เวลาประมาณ 2 วันในการชาร์จ เมื่อชาร์จจนเต็มแล้วจะทำให้นาฬิกาใช้งานได้ประมาณหนึ่งเดือน

SnapBridge

ใช้แอพ SnapBridge เพื่อซิงค์นาฬิกาของกล้องให้ตรงกับนาฬิกาของสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต (สมาร์ทดีไวซ์) สำหรับรายละเอียด โปรดดูวิธีใช้ออนไลน์ของ SnapBridge